เพิ่มเพื่อน
หน้าหลัก > ข่าวและประกาศ > แชนเดอเลียร์ คืออะไรและมีกี่ประเภท
แชนเดอเลียร์ คืออะไรและมีกี่ประเภท
แชนเดอเลียร์ คืออะไรและมีกี่ประเภท
04 Jan, 2024 / By kbfurniturethai
Images/Blog/lxRx65jh-AZ-P-014.jpg

แชนเดอเลียร์ คืออะไรและมีกี่ประเภท

 

          สำหรับคนที่ชื่นชอบสไตล์การแต่งบ้านหรู ๆ เราเชื่อว่าโคมไฟระย้าหรือแชนเดอเลียร์ (Chandelier) ต้องเป็นหนึ่งของตกแต่งบ้านในฝันแน่ ๆ ซึ่งจริง ๆ แล้วราคาของแชนเดอเลียร์ก็ไม่ได้แพงอย่างที่คิด เพราะขึ้นอยู่กับดีไซน์ ซึ่งปัจจุบันก็มีให้เลือกหลากหลายทีเดียว เอาเป็นว่ามีข้อมูลอะไรที่น่ารู้ก่อนซื้อแชนเดอเลียร์บ้าง แล้วต่างจากโคมไฟติดเพดานอย่างไร

แชนเดอเลียร์ คือ

          โคมไฟ Chandelier คือ สิ่งประดิษฐ์ประเภทหนึ่งที่ถูกทำขึ้นเพื่อสร้างความสวยงาม ความหรูหรา และมีระดับให้กับพื้นที่บริเวณดังกล่าว อีกทั้งยังสามารถให้แสงส่องสว่างแบบเดียวกับหลอดไฟทั่วไปอีกด้วย แชนเดอเลียร์ (Chandelier) หรือ โคมระย้า เป็นของตกแต่งเพดาน ในอดีตเป็นสิ่งที่ประดิษฐ์ขึ้นจากไม้ ใช้เทียนให้แสงสว่าง ซึ่งพบเห็นได้ตามโบสถ์ต่าง ๆ หรือบ้านของเหล่าเศรษฐี หลังจากนั้นดีไซน์ของแชนเดอเลียร์ ก็เริ่มมีการเปลี่ยนรูปแบบและขนาด เพื่อให้เข้ากับบ้านสมัยใหม่และใช้กับหลอดไฟได้

แชนเดอเลียร์ โคมไฟแขวน แตกต่างกันอย่างไร

 

          แม้ทั้ง 2 อย่างนี้จะใช้สำหรับตกแต่งเพดานเหมือนกัน แต่ก็มีข้อแตกต่างอยู่ไม่น้อย ทั้งการติดตั้ง วัสดุ ดีไซน์ และราคา ดังนี้

 

          - การติดตั้ง : โคมไฟแขวนใช้สายไฟ 1 เส้น ส่วนมากจะมีก้านห้อยโคมไฟเพียงก้านเดียว และใช้หลอดไฟไม่เกิน 2 หลอด ต่อชิ้น ส่วนแชนเดอเลียร์นั้นมีกิ่งไฟเยอะทำให้ใช้หลอดไฟมากกว่า

 

          - วัสดุ : โคมไฟแขวนมีการผลิตจากหลายวัสดุ อาทิ แก้ว นิเกิล ทองแดง กระจกสเตนกลาส ( Stained Glass) ฯลฯ แต่แชนเดอเลียร์ส่วนใหญ่จะทำจากเหล็ก ทองแดง ครีสตัล หรือกระจก เท่านั้น เลยทำให้มีน้ำหนักมากกว่าโคมไฟแขวนนั่นเอง

 

          - ดีไซน์ : ทั้งโคมไฟแขวนและแชนเดอเลียร์มีหลายดีไซน์ให้เลือก แต่โคมไฟแขวนมีดีไซน์ที่ทำให้ยืดหยุ่นการใช้งานได้มากกว่า เพราะเหมาะกับทุกห้องในบ้าน ในขณะที่ดีไซน์ของแชนเดอเลียร์นั้น ถูกออกแบบให้เข้ากับห้องรับประทานอาหารและห้องครัวมากกว่า

 

          - ราคา : สำหรับราคาของโคมไฟแขวนก็มีให้เลือกหลายระดับ ตามวัสดุที่ใช้ผลิต ซึ่งค่อนข้างถูกกว่าแชนเดอเลียร์ ที่มีขนาดใหญ่กว่าและใช้วัสดุในการผลิตที่แพงกว่า

ประเภทของแชนเดอเลียร์

 

          - Antler Chandeliers : แชนเดอเลียร์ทรงเขากวาง ทำจากยางไม้ เหมาะสำหรับตกแต่งบ้านสไตล์รัสติกหรือคันทรี แต่ก็ปรับใช้กับบ้านสไตล์คอนเทโพรารีและโมเดิร์นเช่นกัน

 

          - Bowl Chandeliers : โคมของแชนเดอเลียร์ประเภทนี้จะมีลักษณะคล้ายถ้วยวางหงาย ส่วนใหญ๋จะใช้หลอดไฟเพียงหลอดเดียว

 

          - Cage Chandeliers : โคมของแชนเดอเลียร์ที่มีลักษณะเหมือนกรง มีหลากหลายรูปทรง ทั้งทรงเรขาคณิต ทรงโค้ง หรือมีการดัดเป็นรูปร่างอื่น ๆ ที่มีความอ่อนช้อย สวยงาม

 

          - Candle Chandeliers : แชนเดอเลียร์เลียนแบบสไตล์ดั้งเดิม เพียงแต่มีการปรับดีไซน์เชิงเทียนให้เหมาะกับการใช้หลอดไฟแทนเทียนไขนั่นเอง

 

          - Crystal Chandeliers : แชนเดอเลียร์ที่ทำจากคริสตัล เป็นรูปแบบที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ให้ความรู้สึกถึงความหรูหรา อลังการ ปัจจุบันมีหลากสี หลายสไตล์ และใช้วัสดุอื่นผสมกันไปด้วย

          - Drum Chandeliers : แชนเดอเลียร์ที่มีโคมครอบทรงกระบอก ทำจากผ้า โลหะ หรือวัสดุอื่น ๆ ส่วนด้านในก็มีทั้งแบบใช้หลอดไฟหลายหลอดและหลอดไฟหลอดเดียว

 

          - Empire Chandeliers : แชนเดอเลียร์สไตล์ฝรั่งเศสคลาสสิก (Classic French Style) ประดับด้วยสายคริสตัลมากมาย เหมาะสำหรับตกแต่งห้องเพื่อเพิ่มความหรูหรา

 

          - Flush Mount Chandeliers : แชนเดอเลียร์แบบไม่มีก้านแขวน ติดตั้งกับโดยตรง เหมาะกับการตกแต่งในห้องที่มีเพดานต่ำ

 

          - Lantern Chandeliers : แชนเดอเลียร์ดีไซน์แบบโคมไฟ ตกแต่งรอบโครงเหล็กด้วยกระจก แต่บางรุ่นก็ไม่มี

 

          - Linear Chandeliers : แชนเดอเลียร์ที่มาในรูปแบบโครงเหล็ก ล้อมหลอดไฟด้วยกรอบทรงสี่เหลี่ยมมุมฉากหรือสี่เหลี่ยมผืนผ้า เหมาะสำหรับติดตั้งไว้เหนือโต๊ะกินข้าวหรือบาร์ห้องครัว

 

          - Mini Chandeliers : แชนเดอเลียร์ขนาดเล็ก เหมาะกับพื้นที่ที่มีขนาดจำกัด เช่น ห้องทำงานหรือมุมกินข้าว

 

          - Orb Chandeliers : แชนเดอเลียร์ที่มีการซ้อนโครงเหล็กวงกลมไว้หลาย ๆ วงในอันเดียวกัน เข้ากับการตกแต่งบ้านได้หลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นสไตล์ลอฟท์หรือโมเดิร์น

 

          - Sputnik Chandeliers : แชนเดอเลียร์ที่ตั้งชื่อตามดาวเทียมดวงแรกของโลก ประกอบด้วยกิ่งหลอดไฟหลายดวง มีความสวยงาม แถมยังดูเป็นเอกลักษณ์

 

          - Teardrop Chandeliers : แชนเดอเลียร์ที่มีช่วงบนกว้าง ช่วงล่างแคบ ส่วนใหญ่ตกแต่งด้วยแท่งคริสตัล ดีไซน์เรียบหรู

 

          - Tiffany Chandeliers : แชนเดอเลียร์ที่ตั้งตามชื่อของกระจกสีที่ออกแบบโดย หลุยส์ คอมฟอร์ท ทิฟฟานี (Louis Comfort Tiffany) เจ้าของทิฟฟานี่ สตูดิโอ (Tiffany Studios) ในนิวยอร์ก สหรัฐฯ ช่วงต้น ค.ศ. 1900 ปัจจุบันมีการดัดแปลงด้วยการเปลี่ยนไปใช้กระจกประเภทอื่น ๆ บ้าง เช่น กระจกสเตนกลาส เป็นต้น

การเลือกซื้อแชนเดอเลียร์

 

สไตล์

 

          เมื่อได้สถานที่ที่จะติดตั้งแชนเดอเลียร์แล้ว ก็ให้เลือกสไตล์ของแชนเดอเลียร์ให้เข้ากับสถานที่นั้น ๆ เพราะแชนเดอเลียร์ถือเป็นส่วนประกอบภายในห้อง ฉะนั้นจึงไม่ควรโดดเด่นหรือดูแปลกแยกจนเกินไป ซึ่งเคล็ดลับง่าย ๆ ในการหาซื้อแชนเดอเลียร์สไตล์ที่ใช่ ก็ให้เราหาตัวอย่างสัก 2-3 รูป พร้อมกับภาพห้องของเราไปให้คนขายดู ก็ได้ทั้งแนะนำและทำให้เราเลือกแชนเดอเลียร์ได้ง่ายขึ้นแน่นอน แต่อย่างไรก็อย่าซีเรียสกับเรื่องสไตล์มากไป ให้คำนึงถึงความพอใจของตัวเองไว้ด้วย เพราะบางทีสไตล์ดูที่ตรงกับข้ามหรือไม่เข้ากันก็อาจทำให้ห้องออกมาสวยงามถูกใจเราก็ได้ 

ขนาด

 

          เราจำเป็นต้องกำหนดขนาดของแชนเดอเลียร์ออกมาให้เหมาะสมกับพื้นที่ ซึ่งในส่วนของขนาดความกว้างทำได้โดยการวัดความกว้างและความยาวของห้องเป็นฟุต จากนั้นก็นำผลทั้งทั้งสองมาบวกกัน แล้วจึงเปลี่ยนหน่วยจากฟุตเป็นนิ้ว เท่านี้ก็จะได้ขนาดของเส้นผ่าศูนย์กลางแชนเดอเลียร์ที่เหมาะสมกับพื้นที่ที่จะติดตั้ง แต่ถ้าหากจะติดตั้งแชนเดอเลียร์ให้พอดีกับโซฟาที่นั่งหรือจุดใดจุดหนึ่งของห้อง ก็ให้เปลี่ยนจากขนาดความกว้างและความยาวรวมของห้องเป็นขนาดของที่นั่งแทน หรือไม่เช่นนั้นก็สามารถวัดจากความยาวของผนังสองฝั่งใกล้ ๆ มาจนถึงจุดกึ่งกลางของที่นั่ง แล้วทำตัวเลขทั้งสองมาบวกกัน เสร็จแล้วก็คูณด้วย 2 เปลี่ยนเป็นนิ้ว เท่านี้ก็จะได้ขนาดของแชนเดอเลียร์ที่เหมาะสม ส่วนสำหรับแชนเดอเลียร์ที่ติดตั้งไว้ในห้องกินข้าว ก็ให้เลือกขนาดประมาณ ½ หรือ 2/3 ของความกว้างโต๊ะ หรือไม่ก็เลือกให้มีขนาดน้อยกว่าความกว้างโต๊ะลงมาประมาณ 12 นิ้ว  และเมื่อได้ขนาดเส้นผ้าผ่าศูนย์กลางของแชนเดอเลียร์ที่เหมาะสมแล้ว ความความสูงของแชนเดอเลียร์ก็ต้องคำนวณให้พอดีด้วย โดยให้เราวัดขนาดความสูงของห้องตั้งแต่เพดานลงมาถึงพื้นเป็นฟุต เสร็จแล้วก็คูณด้วย 2.5 หรือ 3 เข้าไป ก็จะได้ขนาดความสูงของแชนเดอเลียร์ที่พอดีกับขนาดห้องแล้ว

ความสูง

 

          นอกจากเรื่องขนาดแล้ว ความสูงของแชนเดอเลียร์ก็สำคัญไม่แพ้กัน ให้เราทำการปรับความสูงของด้านล่างแชนเดอเลียร์ให้ห่างจากพื้นห้องต่าง ๆ ประมาณ 7 ฟุต แต่ถ้าหากติดตั้งแชนเดอเลียร์ไว้ในห้องกินข้าว ก็ให้ปรับให้ห่างเหนือโต๊ะกินข้าวขึ้นมาประมาณ 30 นิ้ว ทว่าถ้าเพดานของคุณสูงเกินกว่า 8 ฟุต ก็ให้ปรับแชนเดอเลียร์ให้ห่างจากโต๊ะกินข้าวขึ้นมาประมาณ 36-40 นิ้ว

 

สำหรับคนที่ชื่นชอบสไตล์การแต่งบ้านแบบ Luxury หนึ่งในของตกแต่งบ้านที่สำคัญ และต้องมีคือ “โคมไฟระย้า หรือแชนเดอเลียร์ (Chandelier)”  และหลายๆคนอาจจะคิดว่าแชนเดอเลียร์นั้นจะต้องมีราคาสูง แต่จริงๆ แล้วแชนเดอเลียร์ไม่ได้มีราคาสูงอย่างที่คิด โดยราคาจะขึ้นอยู่กับดีไซน์ และขนาด เริ่มต้นเพียงหลักพันเท่านั้น

Like